แนะนำเชฟโรเลต มือสอง แฮทช์แบ็ก 5 ประตู รุ่นใดน่าใช้งานที่สุด 2022

 

เชฟโรเลตแบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากอเมริกาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในตลาดรถเมืองไทยโดยพาะในรุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู  ในราคาเริ่มต้นประมาณ 80,000 บาท เท่านั้น

Chevrolet แบรนด์รถยนต์สัญชาติอเมริกันที่มีการยอมรับจากผู้ใช้งานรถยนต์ทั่วโลกด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ในรถเชฟโรเลตที่ดีเยี่ยม ผสานกับโรงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแกร่งในสไตล์รถอเมริกัน ทั้งนี้เชฟโรเลทเริ่มทำตลาดรถยนต์เป็นครั้งแรกในปี 1916 ในอเมริกา ก่อนที่ในภายหลังจะมีการพัฒนารถยนต์ออกสู่ตลาดรถยนต์ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยเชฟโรเลตมีการทำตลาดรถยนนต์หลากหลายรุ่นทั้งรูปแบบรถกระบะ 4 ประตู , รถยนต์นั่งส่วนบุคคลในรูปแบบรถซีดาน 4 ประตู และรถอเนกประสงค์ในรูปแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ที่นับเป็นจุดเด่นของรถยนต์จากค่ายนี้ซึ่งมีให้เลือกใช้งานทั้งในรุ่น Spin , รุ่น Captiva , รุ่น Trailblazer , รุ่น Sonic และรุ่น Zafira ด้วยระบบช่วงล่างที่มีความนุ่มนวลสูงพร้อมลดแรงกระแทกที่ส่งไปยังห้องโดยสาร ผสานกับการออกแบบห้องโดยสารให้มีขนาดที่กว้างขวางในสไตล์รถยุโรป สำหรับตลาดรถเมืองไทยรถเชฟโรเลต มือสอง ยังคงได้รับความสนใจอยู่มากด้วยเป็นรถที่มีสมรรถนะดีเยี่ยมผสานกับราคาจำหน่ายที่ไม่สูงมากนัก

แนะนำรถเชฟโรเลต มือสอง รุ่นที่น่าใช้งานมากที่สุด 

1.Chevrolet Spin รุ่น 1.5 LTZ

Chevrolet Spin รุ่น 1.5 LTZ อเนกประสงค์ MPV อีกรุ่นหนึ่งที่มีการดีไซน์โครงสร้างตัวถังให้ดูดุดันผสานกับความปราดเปรียวตอบโจทย์การขับขี่ภายในเมืองได้เป็นอย่างดี โดยได้เริ่มวางตลาดจำหน่ายในปี 2014 ก่อนที่ในภายหลังจะได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์อีกครั้งในปี 2019-ปัจจุบัน Chevrolet Spin รุ่น 1.5 LTZ ได้รับการติดตั้งกระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมคิ้วขอบโครเมียมและสัญลักษณ์โบว์ไทด์ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า ภายในมาพร้อมห้องโดยสารขนาดใหญ๋ ติดตั้งเบะนั่งจำนวน 5 ที่นั่ง พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครันทั้งจากระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอขนาดใหญ่รองรับ Apple Carplay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ ติดตั้งระบบนำทาง Navigator พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน K14B 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 130 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

Chevrolet Spin

เชฟโรเลต มือสอง รุ่น Spin 1.5 LTZ ราคาเริ่มต้นประมาณ 200,000 บาท

 

อ่านเพิ่มเติม: 

2.รถเชฟโรเลต Trailblazer รุ่น 2.8 LTZ

เชฟโรเลต Trailblazer รุ่น 2.8 LTZ อเนกประสงค์ครอสโอเวอร์รุ่นใหญ่สุดในไลน์การผลิตเชฟโรเลทเริ่มวางตลาดจำหน่ายในปี 2013 ชูจุดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ 4WD และระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ ผสานกับการดีไซน์ภายนอกให้มีความสปอร์ตดุดันโดนใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นทั้งจากการติดตั้งไฟหน้าแบบฮาโลเจน ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า ภายในได้รับการติดตั้งฟีเจอร์อำนวยความสะดวกสุดครบครันทั้งจากเบาะนั่งคนขับปรับระดับได้ด้วยไฟฟ้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ MID ระบบเครื่องเสียงบนหน้าจอระบบสัมผัส รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมทั้งพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ติดตั้งปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย Trailblazer รุ่น 2.8 LTZ ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล Duramax รหัส XLD28 คอมมอนเรลเทอร์โบ ไดเร็คอินเจคชั่น พร้อมระบบอินเตอร์คูลเลอร์ 4สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด470 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Driver Shift Control

chevrolet มือสอง รุ่น Trailblazer 2.5 LT ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 400,000 บาท ถึง 600,000 บาท 

รถเชฟโรเลต Trailblazer รุ่น 2.8 LTZ

3.chevrolet trailblazer รุ่น 2.5 LT

รถเชฟโรเลตรุ่น 2.5 LT เนกประสงค๋ครอสโอเวอร์รุ่นใหญ่ที่ได้เริ่มวางตลาดจำหน่ายในช่วงปี 2019 โดยได้รับการดีไซน์โครงสร้างตัวถังให้มีขนาดใหญ่ พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ 4WD และระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ เสริมด้วยการดีไซน์ห้องโดยสารให้มีขนาดที่กว้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบรถ ครอบครัวติดตั้งเบาะนั่งภายในจำนวน 7 ที่นั่ง พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสุดครบครันทั้งจากพวงมาลัยพาวเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้าพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control สั่งการทำงานได้จากสวิตช์บนพวงมาลัย มอบความบันเทิงด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay รวมถึงรองรับระบบนำทาง Navigation System พร้อมลำโพง 7 ตำแหน่ง ภายนอกติดตั้งไฟหน้าแบบฮาโลเจน ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า โดยได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เครื่องยนต์ดีเซล Duramax LP2 4 สูบ แถวเรียง 16 วาว์ล DOHC เทอร์โบแปรผัน VGT และ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.5 ลิตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Manual Mode 

เชฟโรเลต มือสอง รุ่น trailblazer 2.5 LT ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 300,000 บาท ถึง 600,000 บาท

4.รถเชฟโรเลต รุ่น Captiva รุ่น 1.5 LS

Chevrolet Captiva รุ่น 1.5 LS อเนกประสงค์ SUV ที่ได้รับการดีไซน์ตัวถังให้สปอร์ตโฉบเฉี่ยวโดนใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เริ่มวางตลาดจำหน่ายในช่วงปี 2019 เสริมด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกเป็นจำนวนมากทั้งจากการติดตั้งไฟหน้าแบบ LED พร้อมฟังก์ชั่นหน่วงเวลาปิด ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ตกแต่งภายในด้วยสีทูโทน พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในแบบจัดเต็มทั้งจากเบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบทัชสกรีนบริเวณคอนโซลกลาง ขนาด 10.4 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ AUX และ USB รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน เบอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบประหยัด Eco Mode และ Sport Mode 

รถเชฟโรเลต รุ่น Captiva รุ่น 1.5 LS

เชฟโรเลต มือสอง รุ่น Captiva รุ่น 1.5 LS ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 500,000 บาท ถึง 600,000 บาท

5.Chevrolet Sonic รุ่น 1.4 LT

Chevrolet Sonic รุ่น 1.4 LT อเนกประสงค์ SUV ขนาดเล็กในรูปแบบรถแฮททช์แบ็ก 5 ประตู ที่มีความคล่องตัวสูง เริ่มทำตลาดในประเทศไทยช่วงปี 2012-2015 ถือเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Honda Jazz และ Toyota Yaris รถร่วมเซกเมนท์เดียวกัน ชูจุดเด่นด้วยการดีไซน์โครงสร้างตัวถังให้มีความปราดเปรียวสูงตอบโจทย์การใช้งานภายในเมือง เสริมด้วยการติดตั้งไฟหน้าแบบฮาโลเจนทรงสปอร์ตและไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับพับได้ด้วยไฟฟ้าและกระจังหน้าแบบโครเมียม ส่วนภายในมาพร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครันทั้งจากหน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล ช่องจ่ายไฟสำรองขนาด 12 โวลต์ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบทัชสกรีนรอบรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Chevrolet Sonic รุ่น 1.4 LT ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน รหัส A14XER ขนาด 1.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Driver Shift Control 

Chevrolet Sonic รุ่น 1.4 LT

รถเชฟโรเลต รุ่น Sonic 1.4 LT ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 100,000 บาท ถึง 170,000 บาท

6.Chevrolet Zafira รุ่น 2.2 CDX 

Chevrolet Zafira รุ่น 2.2 CDX แฮทช์แบ็ก 5 ประตู ขนาดเล็กอีกรุ่นหนึ่งจากเชฟโรเลตที่ได้รับการดีไซน์ภายนอกให้มีความคล่องตัวสูงตอบโจทย์การใช้งานภายในเมือง เปิดตัวทำตลาดในไทยช่วงปี 2000-2006 โดยได้รับการติดตั้งไฟหน้าแบบฮาโลเจน พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า กระจกมองข้างปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมทั้งแร็คหลังคาสำหรับบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติม ขณะที่ภายในได้รับการดีไซน์ห้องโดยสารให้มีขนาดใหญ่เพื่อใช้งานในรุปแบบรถครอบครัว ติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนท์เครื่องเสียงวิทยุ FM/AM พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB/AUX หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล และระบบปรับอากาศแบบอนาล็อก Chevrolet Zafira รุ่น 2.2 CDX ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน รหัส Z22 SE Ecotec 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 203 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า

รถเชฟโรเลตรุ่น Zafira 2.2 CDX ราคาเริ่มต้นประมาณ 80,000 บาท ถึง 200,000 บาท

สำหรับผู้ที่มีความสนใจรถเชฟโรเลต แฮทช์แบ็ก 5 ประตู ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ค้นหารถเชฟโรเลต มือสอง สภาพดี ราคาถูก รถบ้านเจ้าของขายเอง มีความน่าเชื่อถือ เลือกรถ  chevrolet มือสอง รุ่นที่ตอบสนองต่อการใช้งานของคุณได้ที่ Chobrod.com ตลาดรถยนต์ออนไลน์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย 

ดูบทความเพิ่มเติมได้ที่: https://thanomcarblog.blogspot.com/  

Nhận xét

Bài đăng phổ biến từ blog này

เป็นเจ้าของรถมือสองราคาถูกหลักหมื่นได้ง่ายๆที่ Chobrod.com

MU-X 1.9 มือสอง เจ้าของขายเอง สุดยอด PPV แห่งปี ในราคาสุดคุ้ม

Toyota Cross ครอสโอเวอร์สุดแกร่ง มีให้เลือกใช้งานในราคาถูกที่ Chobrod.com